วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2561

สรุปงานวิจัย





                   สรุปงานวิจัย


☕☕☕☕☕☕☕☕☕☕☕☕☕☕☕☕☕☕☕

1.การพัฒนาการกระบวนการคั่วกาแฟ

สรุปผลการวิจัย 
    1.การการคั่วกาแฟด้วยเทคนิคสเปาเตดเบดแบบมีท่อน้ำก๊าชสามารถคั่วกาแฟได้สม่ำเสมอทั้ง4 ระดับการคั่ว โดยใช้อุภูมิร้อนอยู่ในช่วง 230 250% และใช้เวลาในการคั่วอยู่ในช่วง9.50 10.25 2.ระดับการคั่ว Deeree of roast มีความสัมพันกันทางกายภาพของกาแฟที่พิจารณาในการทดลองยกเว้นความชื้อของเมล็ดกาแฟโดยค่าสีของกาแฟคั่วค่าความสูญเสียของการแฟเพิ่มมากขึ้นตามระดับส่วนค่าหนาแน่ของเมล็ดกาแฟคั่วมีการลดลงตามลำดับความร้อน 3.ที่ระดับการคั่วเดียวกันความคั่วที่ใช้อุณภูมิสูงมีเเนวโน้มกาแฟที่หนาแแน่ของกาแฟคั่วและใช้เวลาคั่วลดลง ชื่อผู้เขียน วิจัย  
(สุชน  ทรัพย์สิงห์)
   
2.การศึกษาบริษัทชิ้นส่วนยางยนต์จ.นครราชสีมา 

สรุปผลการวิจัย
     2.การศึกษาบริษัทผลิตชิ้นส่วนยางยนต์ จังหวัดนครราชสีมา สรุป จากการศึกษาพบว่าสามรถลดระยะทางได้ถึงร้อยละ 87.37 และเวลาในการขนย้ายชิ้นงานระกว่างแผนกลงได้ร้อยละ 59.34 ทำให้ไม่เกิดการ รอคอยและไม่เกิดการเมื่อล้าในการทำทำงานของพนักงาน และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของสายการผลิตของบริษัท ผู้เขียนวิจัย (อนิรุธ  พิพัฒน์ประภา) 3.ผลการเปรียบเทียบหมักก๊าชใช่น้ำร้อนกับการไม่ใช้น้ำร้อน สรุปการวิจัย 1.กรณีในการใช้น้ำร้อนเข้ามาช่วยในกระบวนการหมักชีวภาพเเบ2ขั้นตอนสามารถช่วยในการเกิดเเก๊สเร็วกว่าการหมักไม่ใช่น้ำร้อน 2.การเพิ่มอุณภูมิในถังหมักช่วยเร่งปฏิกิริยาในการย่อยและจะเห็นได้ว่ามูลก๊าชดีกว่า 3.ค่าความเป็นกด-ด่าง ในถังหมักก๊าช กรณีใช้น้ำร้อนจะเป็นด่าง 4.ปริมาณมนการใช้น้ำร้อนสูงกว่ากรณีไม่ใช่น้ำร้อน 27.09% ผู้เ้ขียนวิจัย (ประพันธ์พงษ์  สมศิลา)
 
4.การศึกษาประสิทธิภาพเชิงความร้อนเครื่องอบแห้งพลังงานแสงอาทิต
ผลการสรุป  
      สรุปผลการทดลงพบว่าค่าApจะมีค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเพิ่มขึ้นซึ่งจะเป็นไปตามหลักของกลศาสตร์ของโลกคือเมื่อความเร็วการไหลเพิ่มขึ้นก้อจะให้ระหว่างอวกาศส่งผลให้Apมีค่าสูงขึ้น ผู้เขียนวิจัย  (ประพัฒน์   บุญเต็ม)

5.จำนวนช่องว่างต่อหนึ่งนิ้ว(PPI) ของวัสดุพรุนชนิดตาข่ายสแตนเลสที่มีผลต่อค่าการซิ่มผ่านและสัมประสิทธิ์ความเฉื่อย 
สรุป 
    ค่าการซึมผ่านคือค่าความสามารถของวัสดุพรุนที่ยอมให้ของไหลผ่านตัวมันเอง ค่าสัมประสิทธิ์การเฉื่อยคือค่าด้านการไหลของการไหลโดยทั่วไปใช่กรณีที่ของไหลผ่านวัสดุพรุน
6.การประยุกต์ใช้เว็บยูสเซสไมนิงเทคนิคเพื่อศึกษาปัญหาการใช้งานอินเตอร์เน็ต
สรุป
       1.ใช้เวลาในการจัดการข้อมูลน้อยกว่าชุดที่1
        2. ค้นหากฎความสัมพันธ์ได้น้อยกว่าข้อมูลชุดที่1
7.การศึกษาและสร้างแสงอาทิตย์เทียมขนาดเล็กสำหรับการทดสอบแผงรับรังสีแสงอาทิตย์ตามมาตรฐานEN -12975-2
สรุป 
       การกระจ่ายตัวความเข้มความแสงจะเริ่มสม่ำเสมอเมื่อ
ระยะห่างระหว่างลอดไฟกับ พื้นทีรับแสงเพิ่มขึ้น ระยะห่างระหว่างลอดไฟกับพื้นทีรับแสงเท่ากับ77cm จะมีคุณสมบัตตามมาตรฐานEN-12975-2 มากที่สุด คือมีความคลาดเคลื่อนเท่ากับ10.89%มีค่าความเข้มแสงเฉลี่ยเท่ากับ703.72w/m
ผู้เขียนวิจัย (ธนากรยะ   สูงเนิน)  

8.บทบาทและศักยภาพด้านคมนาคมของจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนไทย-ลาว ในพื้นที่จังหวัดน่าน
     วิธีการดำเนินวิจัย 
 1.ในระยะเวลา1สัปดาห์ ระหว่างวันที่1-7 ตุลาคม2560 โดยใช้กลุ่มตัวอย่างเช่นผู้นำชุมชนหรือผู้ให้บริการ 15คน
2.สุ่มตัวอย่างเเบบเจาะจงและเเบ่งชั้นภูมิอย่างง่ายประเภทของสินค้าเริ่มต้นที่จะขายของ
3.วิจัยเพื่อศักยภาพเส้นทางของคมนาคมที่เกี่ยวเนื่องกับจุดผ่อนปรนการค้าชายแดน
4.การดำเนอนงานโดยเก็บข้อมูลทางกายภาพของถนนที่เกี่ยวเนื่องจำเเนกประเภทถนน
สรุปผล ดังนั้นหากต้องส่งศักยภาพของจุดปรนในด้านการค้าจึงควรจำเป็นอย่างยิ่งที่ปรับปรุงสภาพผิวทางสนับสนุนการค้าชายเเดนในระดับท้องถิ่นที่ปรากฏที่จุดปรนในการค้าในบ้านใหม่ชายแดด อำเภอสองเเถว จ.น่าน ดร.ธนากร ศูประโคน มหาวิลัยราชภัฏบุรีรัมย์

👍👍👍👍👍👍👍👍👍👍👍👍👍👍👍👍👍👍



ศึกษาดูงาน

บริษัท ชลประทานซีเมนต์ จำกัด (มหาชน)

             บริษัท ชลประทานซีเมนต์ จำกัด จดทะเบียนก่อตั้งเมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2499 ต่อมาในปี พ.ศ. 2501 บริษัทฯ ได้ทำการก่อสร้างโรงงานปูนซีเมนต์แห่งแรกขึ้นที่ อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไปทางเหนือประมาณ 185 กิโลเมตร ในระยะแรกโรงงานมีกำลังการผลิตปูนซีเมนต์วันละ 360 ตัน และต่อมาได้มีการปรับปรุงเป็นระยะๆ จนกระทั่งปัจจุบันนี้โรงงานตาคลีมีกำลังการผลิตปูนซีเมนต์ 2,700 ตันต่อวัน

           เมื่อความต้องการปูนซีเมนต์ในประเทศมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น บริษัท ชลประทานซีเมนต์ จำกัด จึงได้สร้างโรงงานปูนซีเมนต์แห่งที่สองขึ้นที่ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 200 กิโลเมตร การก่อสร้างโรงงานชะอำเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2512 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2514 และ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดโรงงาน เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2514 ในระยะแรกโรงงานชะอำมีกำลังการผลิตปูนซีเมนต์ได้วันละ 1,560 ตัน ต่อมาได้มีการปรับปรุงเพื่อขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น โดยการปรับปรุงในระยะแรกได้แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2533 ทำให้มีกำลังการผลิตปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้นเป็น 2,100 ตันต่อวัน และเมื่อการปรับปรุงในระยะที่สองแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2525 กำลังการผลิตปูนซีเมนต์ของโรงงานชะอำจึงเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 2,700 ตัน

        ผลิตปูนซีเมนต์ออกจำหน่ายหลายประเภทด้วยกัน ได้แก่

ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ประเภท I ; i.work บัวแดง , i.pro บัวแดง เอ๊กซ์ตร้า

ปูนซีเมนต์ผสม; i.pro บัวเขียว i.pro บัวฟ้า i.pro บัวซูเปอร์ 

ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ประเภท III ; i.speed บัวดำ

ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ประเภท V ;  i.idro บัวฉลาม

ปูนซีเมนต์สำหรับงานขุดเจาะบ่อน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ;  i.tech Well Cement 

ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก; i.pro บัวแดงไฮเทค 

  • ปูนสำเร็จรูป บัวมอร์ตาร์ เบสิค มี 4  ประเภท
  1. i.pro บัวมอร์ตาร์ : ฉาบทั่วไป
  2. i.pro บัวมอร์ตาร์ : ก่อทั่วไป
  3. i.pro บัวมอร์ตาร์ : ฉาบอิฐมวลเบา
  4. i.pro บัวมอร์ตาร์ : ก่ออิฐมวลเบา
  • ปูนสำเร็จรูป บัวมอร์ตาร์เทคนิคคอลมอร์ตาร์ มี 4 ประเภท 
       i.pro บัวมอร์ตาร์ กาวซีเมนต์ FIX 
       i.pro บัวมอร์ตาร์ กาวซีเมนต์ FIX XL
       i.pro บัวมอร์ตาร์ สกิมโค้ท สีเทา

       i.design บัวมอร์ตาร์ สกิมโค้ท สีขาว

ในปี พ.ศ. 2546 บริษัท ชลประทานซีเมนต์ จำกัด และบริษัท ปูนซีเมนต์เอซีย จำกัด (มหาชน) ได้ผนวกการบริหารงานเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริการ เสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจ และรวมการบริหารจัดการทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกันเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน อาทิ บัญชีและการเงิน การตลาดและการขาย การผลิต การจัดซื้อและจัดหา ทรัพยากรบุคคล และอื่นๆ ภายใต้การบริหารงานของทีมงานมืออาชีพ ทำให้ในปัจจุบันบริษัทฯ สามารถสนองตอบความต้องการของลูกค้าในด้านต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น
ที่มา https://www.asiacement.co.th/th/jalaprathan-cement-plc

ประโยชน์และสิ่งที่ได้รับในการศึกษาดูงาน


- เป็นโรงงานที่สร้างเขื่อนภูมิพล
- บรืษัทมีการคิดมาตั้งดึกดำบรร ว่าควรสร้างโรงงานดักการส่งทั้งสายเหนือ และสายใต้ เพื่อเป้นการดักลูกค้าได้ในภูมิภาค
- โรงงานมีอุปกรณืเครื่องมีอายุที่นานและเก่า  ทำให้เมื่อการเสื่อมเสียก็จะหาซื้ออุปกรณ์ยาก
- โรงงานมีการตรวจสุขภาพในทุกปี ให้กับพนังงานเนื่องด้วยโรงงานมีขนาดฝุ่นมาก สุขภาพพนักงานจึงเป็นเรื่องสำคัญ
- ในการผลิตสินค้าเป็นหน้าที่ของผู้บริหาร โรงงานมีหน้าที่เพิ่งผลิตตามที่สั่ง
- ถ้าเกิดปัญหาเครื่อง/วัสดุ/อุปกรณืเสีย ไม่สามารถผลิตให้ลูกค้าได้ โรงงานจะให้ลูกค้าไปรับสินค้าอีกที่หนึ่ง โดยการให้ส่วนลดกับลูกค้า
- โรงงานมีการป้องกันการเกิดฝุ่นในกับชุมชนโดยมีแผงแม่เหล็กในการในการดักและดูดจับฝุ่น
- โรงงานมีการสร้างความสัมพันธ์ให้กับชุมชน/ผุ้มีส่วนได้เสียโดยการมอบทุนการศึกษา (ทุนพยานาคทอง)
- โรงงานมีการส่งสินค้าทั้งทางน้ำและทางรถยนต์
กรรมวิธีการเผามีอยู่3 วิธี
  1.กรรมวิธีการเผาเปียก  วิธีเป็การลดพลังานการเผาของโรงงาน
  2. กรรมวิธีกึ่งแห้ง
  3.กรรมวิธีเผาแห้ง  (เป็นที่นิยมที่สุด)  เพราะง่ายต่อการบรรจุ และมีน้ำหนักเบา


SCG PAPER โรงงานบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี

         บริษัท สยามคราฟท์อุตสาหกรรม จำกัด หรือ SKIC ดำเนินธุรกิจกระดาษบรรจุภัณฑ์ ในเอส ซีจี เปเปอร์ ผู้นำด้านการผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์คุณภาพ เป็นผู้ผลิตรายแรกในประเทศไทย และ ปัจจุบนเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยฐานการผลิตทั้งในประเทศไทย เวียดนาม และ ฟิลิปปินส์ โดยมีกำลังการผลิตรวมประมาณปีละ 2.3 ล้านตัน ด้วยเครื่องผลิต กระดาษมากถึง 15 เครื่อง และ มีกระบวนการควบคุมคุณภาพได้ตามมาตรฐานสากล 
      จึงสามารถผลิตสินค้า ตอบสนองความต้องการใช้งานของลูกค้าในหลากหลาย อุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ บริษัท เวสท์โคสท์เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด หรือ  WCE ได้รับความไว้วางใจจาก SKIC ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาดำเนินงานในสายธุรกิจวิศวกรรมจัดหา และ ก่อสร้าง ให้บริการ Intergraded  EPC อย่างครบวงจร อาทิ งาน SKIC Banpong Coal Warehouse and Coal Handling System มูลค่า 180 ล้านบาท ,งาน EPC SKIC PM#16 BOP Utility Tie – in work (LP –steam ,Condensate, Deep well water ,Mill & Effluent water fire fighting pipe ) มูลค่า 51 ล้านบาท เป็นต้น 
ที่มาhttp://www.wce.co.th/news_detail2556.php?id=101

ประโยชน์และสิ่งที่ได้รับในการศึกษาดูงาน


           บริษัทผลิกระดาษโดยมีการรับซื้อประมาณ 105,000 ตัน และอีก 400,000 ตันได้มาจากการรับซื้อจากต่างประเทศมา จากนั้นก็จะมีการตรวจสอบคุณภาพของกระดาษที่นำมาผลิต  ลักษณะไหนใช้ได้  ลักษณะไหนดี  และขัดแยกต่อไปเพื่อการผลิต
           หลังจากนั้นก็จะมีพนักงานมาแยกกระดาษที่แตกต่างออกเช่นกระดาษนิตยสารหรือลูกแม็กเย็บกระดาษต่างๆ  จากนั้นก็นำกระดาษเข้าสู่ถังขนาดใหญ่ ในถังก็จะทำกระบวนการเหมือนเครื่องปั่นเพื่อที่จะทำให้กระดาษจากแผ่นใหญ่ๆ เหลือเป็นเพียงแค่เยื่อ ชิ้นเล็กๆ จากนั้นถังก็จะลำเลียงน้ำเยื่อไปพักเก็บไว้ในถังขนาดใหญ่และนำไปขึ้นรูปในเครื่องขึ้นรูปกระดาษ

         โดยบริษัทต้องการที่จะผลิตกระดาษให้มีความแข็งแรงทนทานต่อการใช้งานขั้นตอนแรกจึงต้องทำการบดเยื่อเจากนั้นก็ส่งไปยัง เครื่องขึ้นแผ่นกระดาษจากนั้นจะได้กระดาษแผ่นเปียกๆ เป็นสีน้ำตาลจากนั้นก็อบด้วยลูกอบหลาย 10 ลูก จนแห้งก่อนขัดผิวกระดาษให้นวลน่าใช้จากนั้นก็เข้าม้วนกระดาษเป็นน้ำน้ำตาล เพื่อนำไปลุ่่การทำการดาษลัง
         บริษัทจะผลิตเพื่อเยื่อจากกระดาษลังเก่าเท่านั้น ไม่มีการผลิตจากไม้ โดยผลิตจากไฟเบอร์ใยยาว เพราะถ้าเป็นใยสั้น จะทำให้กระดาษกรอบง่าย

วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2561

บทที่8 ระบบสารสนเทศสำหรับความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ แบบฝึกหัดและกรณีศึกษา

สรุปบทที่ 8 ระบบสารสนเทศสำหรับความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ เเบบฝึกหัดเเละกรณีศึกษา

**สรุปบทที่ 8 ระบบสารสนเทศสำหรับความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์**

https://breakinggov.com

แนวคิดกลยุทธ์ทางการแข่งขัน
                เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ และความสามารถที่ทำให้เกิดความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์แก่บริษัทท่ามกลางแรงกดดันทางการแข่งขันที่กำลังเผชิญหน้าอยู่ทุกวันในตลาดการค้าโลก เป็นระบบที่ช่วยเหลือหรือกำหนดตำแหน่งการแข่งขันในตลาดและกำหนดกลยุทธ์ของกิจการ การสร้างกลยุทธ์การแข่งขันพื้นฐาน 5 อย่าง
                1. กลยุทธ์การเป็นผู้นำด้านราคา
                2.กลยุทธ์ความแตกต่าง
                3.กลยุทธ์นวัตกรรม
                4.กลยุทธ์ความเจริญเติบโต
                5.กลยุทธ์สร้างพันธมิตร
บทบาททางกลยุทธ์สำหรับระบบสารสนเทศ
การปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจ บทบาทที่ก่อให้เกิดการพัฒนาที่สำคัญในขั้นตอนต่างๆ ในการดำเนินธุรกิจของบริษัท การลงทุนในเทคโนโลยีสารสนเทศสามารถช่วยให้ขั้นตอนในการปฏิบัติงานภายในมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถทำให้บริษัทลดต้นทุน ปรับปรุงคุณภาพและการให้บริการแก่ลูกค้าและสามารถพัฒนาคิดค้นผลิตภัณฑ์สำหรับการเปิดตลาดใหม่อีกด้วย
การส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ สามารถให้ผลดีในการพัฒนาสินค้าและบริการหรือขั้นตอนการทำงานที่มีเอกภาพ
-การควบคุมลูกค้าและผู้จัดหาสินค้า ทำให้ธุรกิจสามารถควบคุมสินค้าและผู้จัดหาสินค้า ให้มาทำธุรกิจด้วยกัน
-การสร้างกลไกต้นทุนการเปลี่ยนแปลง การหาหนทางสร้างกลไกต้นทุนการเปลี่ยนแปลงในความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับลูกค้าและผู้จัดหาสินค้า
-การเพิ่มอุปสรรคของการเข้าสู่วงการ โดยการลงทุนในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อปรับปรุงการทำงานหรือส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ทำให้บริษัทอื่นเกิดความท้อถอยหรือเกิดความล่าช้าที่จะเข้ามาเป็นคู่แข่งในวงการ
-การยกระดับฐานงานเทคโนโลยีสารสนเทศเชิงกลยุทธ์ ทำให้บริษัทมีโอกาสได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ของการปฏิบัติงาน
-การพัฒนาฐานข้อมูลทางด้านกลยุทธ์ เป็นข้อมูลที่จะช่วยสนับสนุนกลยุทธ์การแข่งของบริษัท จะเสริมการทำงานและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพของบริษัท
การทำลายอุปสรรคทางธุรกิจ
-การทำลายอุปสรรคทางด้านเวลา การทำให้ระยะเวลาการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าสั้นลงและลดการลงทุนด้านการเก็บกักสินค้าให้เหลือน้อยที่สุด
-การทำลายอุปสรรคทางด้านภูมิศาสตร์ การทำธุรกิจในตลาดทางด้านท้องถิ่น ระดับชาติ หรือระดับโลก ทำลายระยะทางที่กีดขวางการควบคุมการบริหารงาน
-การทำลายอุปสรรคทางด้านต้นทุน ประหยัดค่าแรงงาน ลดขนาดของคลังสินค้า ลดจำนวนศูนย์ขนส่งสินค้า และลดต้นทุนการตัดต่อสื่อสาร
-การทำลายอุปสรรคทางด้านโครงสร้าง อินเทอร์เน็ต อินทราเน็ต เอ็กซ์ทราเน็ต และเครือข่ายการสื่อสารระยะไกลอื่นๆ สามารถส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงในบริการการส่งสินค้า เพิ่มขอบข่ายและแทรกซึมเข้าสู่ตลาด
การประยุกต์ใช้เชิงกลยุทธ์และประเด็นที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
               การที่องค์กรใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี บริษัทอาจใช้ระบบสารสนเทศในเชิงกลยุทธ์ ในเชิงป้องกันหรือในเชิงควบคุม เพื่อความได้เปรียบทางการแข่งขัน
กระบวนการทางธุรกิจในการจัดระบบใหม่
               เป็นการปรับรื้อกระบวนการทางธุรกิจซึ่งเป็นเรื่องที่มากกว่าการทำให้กระบวนการธุรกิจเป็นไปอย่างอัตโนมัติเพื่อก่อให้เกิดการพัฒนาด้านประสิทธิภาพของการดำเนินธุรกิจ เหมือนกับการคิดทบทวนใหม่ตั้งแต่เริ่มแรกและออกแบบกระบวนการทางธุรกิจใหม่ทั้งหมด
บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศ
               มีบทบาทสำคัญในการปรับรื้อกระบวนการทางธุรกิจ ซึ่งส่วนใหญ่ ความรวดเร็วความสามารถในการประมวลผลข้อมูลและการเชื่อมต่อกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของขั้นตอนทางธุรกิจได้เป็นอย่างมาก
การปรับปรุงคุณภาพของธุรกิจ
              วิธีการเปลี่ยนแปลงการทำงาน รวมทั้งการปรับรื้อระบบ การปรับปรุงคุณภาพอย่างต่อเนื่องและเทคนิคการปรับโครงสร้างต่างๆ บางบริษัทได้รวมวิธีการต่างๆเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งวิธี
การบริหารคุณภาพโดยรวม
               เป็นมากกว่าวิธีการเชิงกลยุทธ์สำหรับการปรับปรุงธุรกิจ คุณภาพจะเป็นสิ่งที่ถูกเน้นหนักจากมุมมองของลูกค้ามากกว่าตัวผู้ผลิตเอง ดังนั้น คุณภาพจำเป็นต้องตรงตามความต้องการหรือมากกว่าความต้องการและความคาดหวังของลูกค้าผู้บริโภคสินค้าและบริการนั้น ก้าวขึ้นเป็นคู่แข่งที่ฉับไว ความว่องไวคล่องตัวหรือฉับไวในสภาวการณ์ที่มีการแข่งขันกันสูงนั้น เป็นความสามารถทางธุรกิจที่จะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงไปได้ด้วยดี สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดด้วยสินค้าและบริการที่มีคุณภาพสูงมีผลผลิตที่ดีและเหมาะกับที่ลูกค้าต้องการ
การสร้างบริษัทเสมือน
              สามารถทำให้ผู้บริหาร วิศวกร นักวิจัย และพนักงานในสาขาอื่นๆ จากทั่วโลกประสานงานร่วมมือกัน เพื่อผลิตคิดค้นสินค้าและบริการใหม่ๆ โดยไม่ต้องมาพบปะพูดคุยกันตัวต่อตัว

กลยุทธ์ของบริษัทเสมือน
              - ใช้โครงสร้างพื้นฐานและความเสี่ยงร่วมกัน
              - เชื่อมโยงความสามารถหลักเข้าด้วยกัน
              - ลดเวลา ด้วยการใช้ประโยชน์ร่วมกัน
              - เพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและการครอบคลุมทางตลาด
              - เข้าถึงตลาดใหม่ และแบ่งตลาดหรือลูกค้าให้กัน
              - เปลี่ยนจากการขายสินค้ามาเป็นขายวิธีการแก้ปัญหา
การสร้างบริษัทที่สร้างสรรค์ความรู้
                 คือ บริษัทที่สร้างความรู้ใหม่ๆอยู่เสมอและแพร่กระจายความรู้นั้นออกไปให้ทั่วในองค์กรรวมทั้งรีบปรับตัวเข้าสู่เทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้ได้
ระบบการบริหารความรู้
                  การบริหารความรู้ จึงได้กลายมาเป็นหนึ่งในการใช้ประโยชน์เชิงกลยุทธ์ทางเทคโนโลยีสารสนเทศที่สำคัญ เพื่อให้เรียนรู้การบริหารองค์กรและเรียนรู้เกี่ยวกับธุรกิจ เป้าหมายคือ ช่วยให้พนักงานที่มีความรู้ได้สร้างจัดระบบและกระจายความรู้ที่สำคัญเกี่ยวกับธุรกิจ
การใช้อินเทอร์เน็ตอย่างมีกลยุทธ์
                -  การปรับปรุงด้านต้นทุนและประสิทธิภาพ
               -  การปรับปรุงผลการทำงานในด้านความมีประสิทธิผลทางธุรกิจ
               -  การเข้าสู่ตลาดในระดับโลก
               -  การเปลี่ยนแปลงสินค้าและบริการ

 ลูกโซ่การเพิ่มมูลค่าของอินเทอร์เน็ต
                 สามารถช่วยให้บริษัทประเมินการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในเชิงกลยุทธ์ได้และยังสามารถถูกใช้สำหรับจัดวางตำแหน่งของระบบงานที่มีอินเทอร์เน็ตเป็นพื้นฐานของบริษัทได้เกิดความได้เปรียบทางการแข่งขันด้วย
ความท้าทายของระบบสารสนเทศเชิงกลยุทธ์
                 การใช้ประโยชน์เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้ผู้จัดการมองระบบสารสนเทศในแนวใหม่ ระบบสารสนเทศมิใช่เป็นเพียงความจำเป็นทางด้านการปฏิบัติงาน และยังเป็นผู้ช่วยที่มีประโยชน์ในการจัดหาข้อมูลและเครื่องมือในการตัดสินใจของระดับบริหารอีกด้วย
ความสำเร็จในเชิงกลยุทธ์ที่ยั่งยืน
               1. สภาพแวดล้อม ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อม คือโครงสร้างของอุตสาหกรรม
               2.ปัจจัยพื้นฐาน ตำแหน่งเฉพาะในวงการอุตสาหกรรม โครงสร้างองค์กร พันธมิตร สินทรัพย์ ทรัพยากรทาง เทคโนโลยีและทรัพยากรความรู้
               3.การทำการบริหารและกลยุทธ์ การพัฒนาและริเริ่มให้เกิดการกระทำและกลยุทธ์ที่นำไปสู่ความสำเร็จ
                แหล่งที่มา http://soawapa-soawapa.blogspot.com


**แบบฝึกหัดท้ายบทที่ 8**

1.ถ้านักศึกษาเป็นผู้บริหารในองค์กร จะใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเป็นประโยชน์ในการแข่งขันด้านการตลาดของตนอย่างไร และมีข้อสังเกตอย่างไรกับการทำธุรกิจในปัจจุบัน
ตอบ ระบบสารสนเทศสำหรับการส่งเสริมการขาย  เป็น ระบบที่ให้ความสำคัญกับแผนงานทางด้านการโฆษณาและส่งเสริมการขาย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการขาย เพิ่มยอดขายสินค้า และเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดให้สูงขึ้น สารสนเทศที่เป็นที่ต้องการคือยอดขายของสินค้าทุกชนิดในบริษัท เพื่อให้รู้ว่าสินค้าใดต้องการแผนการส่งเสริมการขาย และสารสนเทศที่เกี่ยวกับผลกำไรหรือขาดทุนของสินค้าแต่ละชนิด เพื่อให้ความสำคัญกับสินค้าตัวที่ทำกำไร
2.กลยุทธ์บทบาทของระบบสารสนเทศอะไร ที่จะนำมาช่วยกระบวนการปรับรื้อระบบ และการจัดการคุณภาพ
ตอบ กลยุทธ์ด้านความรวดเร็ว ความสามารถในการประมวลผลข้อมูล และการเชื่อมต่อกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์
3.จงยกตัวอย่าง บริษัทที่ประสบความสำเร็จจากการใช้กระบวนการปรับรื้อทางธุรกิจ
ตอบ บริษัท บาธรูม ดีไซน์ จำกัด ป็นบริษัทขนาดเล็กที่ดำเนินธุรกิจโดยเริ่มต้นจากการนำเข้าสินค้าต่างประเทศเข้ามาจำหน่าย ต่อมาปี ๒๕๔๐ เกิดภาวะวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศไทย บริษัทฯ ประสบปัญหาหนี้สินเพิ่มขึ้น ๑ เท่าตัว ในระยะเวลาอันสั้น รวมถึงกำลังซื้อในประเทศชะลอตัวลง ทำให้ยอดขายของบริษัทฯลดลงอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในกิจการของตนเอง จึงทำให้บริษัท บาธรูมดีไซน์ จำกัด สามารถผ่านวิกฤตการณ์มาได้และประสบความสำเร็จในปัจจุบัน
4.จงยกตัวอย่างความสำเร็จของระบบสารสนเทศเชิงกลยุทธ์
ตอบ บริษัท DEC ปัจจุเป็นบริษัทลูกที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตในปริมาณที่มาก รวมการรับส่งไปรษณ์อิเล็กทรอนิกส์วันละหลายพันข้อความและเสนอข้อความทางสื่อประสมกับข้อมูลของผลิตภัณฑ์บนแม่ข่ายเว็บ เป็นต้น สิ่งนี้เป็นผลให้บริษัทขายคอมพิวเตอร์ Alpha ได้มากกว่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐ
5.จงยกตัวอย่างความล้มเหลวของระบบสารสนเทศเชิงกลยุทธ์
ตอบ บริษัท Chase Manhattan สูญเสียผลกำไรและส่วนแบ่งทางการตลาดหหลังจากความเพียรพยายามที่จะใช้ประโยชน์ IT ในเชิงกลยุทธิ์ทางเทคโนโลยี
6.จงอธิบายถึงประโยชน์ของบริษัทเสมือน
ตอบ ประโยชน์ของบริษัทเสมือนจริง ได้แก่
          1. องค์การ
          2. ผลผลิต
          3. คนทำงาน
         4. ระยะทาง
         5. สถานที่ตั้ง
องค์กรจะเป็นที่รู้จักปรับตัว และรู้จักฉวยโอกาส สามารถสร้างสินค้าที่ตอบสนองลูกค้าได้อย่างตรงไปตรงมาและเป็นที่ยอมรับเชื่อถือในเชิงธุรกิจด้วยกันทั้งสองฝ่าย
7.เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเป็นกลยุทธ์ในการทำธุรกิจ ซึ่งสามารถประสานงานระหว่างลูกค้า ร้านค้า และอื่นๆ ได้อย่างไร
ตอบ  ระบบที่ถูกพัฒนาขึ้นใช้งานด้านการเก็บรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนการขายสินค้า การบริการหลังการขาย  ตลอดจนประวัติการติดต่อกับลูกค้า และมุ่งหวังที่จะใช้ระบบข้อมูลเพื่อสนับสนุนงานบริการให้ลูกค้ามีความพึงพอใจสูงสุด และกลับมาซื้อซ้ำในอนาคต เพื่อสร้างยอดขายที่เพิ่มขึ้นแก่ธุรกิจ  ในบางครั้งอาจมีการใช้งานร่วมกันของโปรแกรมจัดการลูกค้าสัมพันธ์ และโปรแกรมวางแผนทรัพยากรองค์กร เพื่อเสริมประสิทธิภาพของการจัดการงานด้านการพบปะลูกค้า ซึ่งประสบผลสำเร็จและสามารถเพิ่มรายได้ให้ธุรกิจมหาศาล อีกทั้งยังมีการใช้ระบบจัดการลูกค้าสัมพันธ์บนอินเทอร์เน็ต ซึ่งเพิ่มขีดความสามารถด้านการเก็บรวบรวมข้อมูลลูกค้า ประวัติการติดต่อลูกค้า การแนะนำสินค้าใหม่ต่อลูกค้า รวมทั้งด้านการขายผลิตภัณฑ์ผ่านเว็บไซต์บนอินเทอร์เน็ต เช่น ในธุรกิจสายการบินนิยมใช้ระบบจัดการลูกค้าสัมพันธ์บนอินเทอร์เน็ต เพื่อแจ้งข้อมูลการเปลี่ยนเที่ยวบินแก่ลูกค้า และให้บริการลูกค้าด้านการตรวจสอบเที่ยวบิน ทั้งนี้ต้นทุนการพัฒนาและบำรุงรักษาระบบจัดการลูกค้าสัมพันธ์จะสูงมาก



กรณีศึกษา  Ford Motor Company: การใช้อินทราเน็ตและเอ็กซ์ทราเน็ต เพื่อความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน

http://www.thesocialpeople.net

 ตอบคำถามจากกรณีศึกษา
1. อินทราเน็ตและเอ็กซ์ทราเน็ต ช่วยFord ในการเปลี่ยนแปลงกระบวนการการทำงานทางธุรกิจได้อย่างไร
ตอบ คือช่วยให้ประหยัดเงินได้มากมาย ช่วยให้ Ford เปลี่ยนแปลงการทำธุรกิจ จาก ผลิตและขาย หันมาเป็นกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่นแบบ ผลิตตามความต้องการ
2. ผลประโยชน์ทางธุรกิจที่ได้จากการเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานของFord ก่อให้เกิดอะไรบ้าง
ตอบ การส่งรถยนต์จากโรงงานไปสู่ตัวแทนตำหน่ายจะใช้เวลาเพียง 15วัน คือผลิตยานยนต์ให้ได้ตามความต้องการ ทำให้ประหยัดเงินได้หลายล้านเหรียญสหรัฐในสภาพคลังสินค้าและค่าใช้จ่ายปัจจุบัน
3.ผลกำไรที่ Ford หวังว่าจะได้รับจากการใช้อินเทราเน็ต เพื่อให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในขั้นตอนการซื้อคืออะไร
ตอบ ตัวแทนจำหน่ายจะสามารถให้ลูกค้าสั่งซื้อและจัดส่งรถได้ทุกประเภท พนักงานขายสามารถนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์กับลูกค้าและให้ลูกค้าระบุอุปกรณ์ที่ต้องการ ดูรูปประกอบบนจอคอมพิวเตอร์ที่แสดงผลด้วยความละเอียดระดับสูง สั่งซื้อรถและสามารถรับทราบวันที่แน่นอนในการจัดส่ง
                แหล่งที่มา http://soawapa-soawapa.blogspot.com

วันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

สรุปบทที่7 แบบฝึกหัดและกรณีศึกษา

สรุปบทที่7 แบบฝึกหัด และ กรณีศึกษา

สรุปบทที่ 7 ระบบสารสนเทศสำหรับสนับสนุนการตัดสินใจด้านการบริหาร

         การตัดสินใจเป็นบาบาทสำคัญของผู้บริหารที่มีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจขององค์การ การมีสารสนเทศที่ดี และเครื่องมือในการเข้าถึงข้อมูล รวบรวมวิเคราะห์ข้อมูลที่ดีนั้น จะช่วยให้ผู้บริหารสามารถพิจารณาทางเลือกต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว คาดการณ์และแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในบทนี้จะกล่าวถึงระบบสนับสนุนการตัดสินใจ โดยเริ่มจากการจัดการกับการตัดสินใจ   ระดับการตัดสินใจภายในองค์การ  ประเภทของการตัดสินใจ  ส่วนประกอบคุณสมบัติของระบบ DSS เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างDSS กับระบบสารสนเทศอื่น
ระบบสนับสนุนการตัดสินใจกลุ่ม(Group Decision Support System: GDSS)  ส่วนประกอบและประโยชน์ของGDSS รวมถึงการประยุกต์ใช้ระบบ DSS             

                การจัดการกับการตัดสินใจ
การจัดการ  หมายถึง  การบริหารอย่างเป็นระบบ เป็นกิจกรรมที่กลุ่มบุคคลร่วมมือกันดำเนินงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ โดยใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสม และ เกิดประโยชน์สูงสุด
                กระบวนการจัดการนั้น ประกอบไปด้วย การวางแผน  การจัดองค์การ  การสั่งการ  การควบคุม ดังนั้นผู้บริหารจะต้องนำความรู้ ความเข้าใจด้านการบริหารมาประยุกต์ใช้ ให้เหมาะสมกับการทำงาน สถานการณ์ และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะสภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขันกันสูง ผู้บริหารจะต้องเลือก วิเคราะห์ข้อมูลให้ได้สารสนเทศที่ง่ายต่อการเข้าใจ และบริหาร ตลอดจนมองหาโอกาส และวางกลยุทธ์ได้อย่างชาญฉลาด รวดเร็วเหนือคู่แข่งสามารถนำพาองค์การให้เจริญก้าวหน้าได้

                ระดับของการจัดการ   แบ่งเป็น 3 ระดับ  คือ
1.การจัดการระดับสูง (Upper Level Management)
ผู้บริหารระดับสูงจะเป็นผู้กำหนด วิสัยทัศน์ นโยบาย เป้าหมาย วัตถุประสงค์  รวมถึงการวางกลยุทธ์ และแผนระยะยาวขององค์การ จึงมีความต้องการสารสนเทศจากทั้งภายในองค์การ และสิ่งแวดล้อมภายนอก สารสนเทศภายในแสดงถึง ผลสรุปการดำเนินงานของธุรกิจในองค์การ ส่วนสารสนเทศจากสิ่งแวดล้อมภายนอกก็จะนำมาเป็นปัจจัยร่วมในการบริหาร เช่น อัตราการเติบโตของอุตสาหกรรม หรือส่วนแบ่งทางการตลาดของคู่แข่งขัน
2.การจัดการระดับกลาง (Middle Level Management)
ผู้บริหารระดับกลาง มีหน้าที่ วางแผนยุทธวิธี และประสานงานระหว่างผู้บริหารระดับสูง และผู้บริหารระดับต้น ให้ดำเนินงานอย่างราบรื่น ปฎิบัติงานตามนโยบาย หรือแผนงานที่ผู้บริหารระดับสูงกำหนด ข้อสรุปและสารสนเทศต่างๆ ของการปฏิบัติงานจะถูกรวบรวมมาทำการวิเคราะห์ วางแนวทางการดำเนินงาน และปรับปรุงเพื่อให้ทำงานบรรลุตามเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.การจัดการระดับต้น (Lower Level Management)
ผู้บริหารระดับต้นมีหน้าที่ควบคุม ดูแลการปฏิบัติงานประจำวัน ขั้นตอนการทำงานมีรูปแบบแน่นอน การจัดการระดับนี้ต้องอาศัยข้อมูลจากการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดนำมาวิเคราะห์ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ควบคุมให้สามารถดำเนินงานตามแผนระยะสั้นที่วางไว้

                     การตัดสินใจ (Decision Making)    ประกอบด้วย  4 ขั้นตอน ดังนี้
1. การใช้ความคิดประกอบเหตุผล   = รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับปัญหา นำข้อมูลมาวิเคราะห์ตรวจสอบ แยกแยะ กำหนดรายละเอียดของปัญหา
2.  การออกแบบ     = การพัฒนาวิเคราะห์ทางเลือกที่เป็นไปได้ อาจใช้ตัวแบบเพื่อสร้างทางเลือกในการแก้ปัญหา ออกแบบหนทางการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด
3.  การคัดเลือก       = เลือกแนวทางที่เหมาะสมกับปัญหาและสถานการณ์มากที่สุด อาจใช้เครื่องมือมาช่วยวิเคราะห์ คำนวณค่าใช้จ่าย ผลตอบแทนแต่ละแนวทาง เพื่อให้ได้ทางที่ดีที่สุด
4. การนำไปใช้         = เป็นขั้นตอนที่นำผลการตัดสินใจไปปฏิบัติ ติดตามผลการปฏิบัติ เพื่อตรวจสอบว่าดำเนินงานมีประสิทธิภาพ หรือขัดข้องประการใด

      ระดับการตัดสินใจภายในองค์การ    แบ่งออกเป็น 3 ระดับ  คือ
1. การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ (Strategic Decision Making)   = เป็นการตัดสินใจของผู้บริหารระดับสูง ที่จะกำหนดวิสัยทัศน์ กำหนดนโยบาย วางแผนระยะยาวขององค์การให้บรรลุวัตถุประสงค์
2. การตัดสินใจเชิงยุทธวิธี (Tactical Decision Making)     = เป็นการตัดสินใจของผู้บริหารระดับกลาง เช่น การจัดสรรทรัพยากรที่จำเป็นให้บรรลุวัตถุประสงค์ จัดสรรงบประมาณ กำหนดการผลิต ยุทธวิธีทางการตลาด วางแผนงบประมาณ เป็นต้น
3.การตัดสินใจเชิงปฏิบัติการ (Operation Decision Making)  = เป็นการตัดสินใจของผู้บริหารระดับปฏิบัติการเช่น การควบคุมสินค้าคงคลัง การตัดสินใจในกระบวนการในการสั่งซื้อ สามารถกำหนดไว้ล่วงหน้า และตัดสินใจได้โดยอัตโนมัติ

      ประเภทของการตัดสินใจ   มี 3 รูปแบบ คือ
1.การตัดสินใจแบบมีโครงสร้าง (Structured Decision)  = เป็นการตัดสินใจในระดับปฏิบัติการ เป็นตัดสินใจเกี่ยวกับปัญหาที่มีขั้นตอน กระบวนการในการแก้ปัญหาแน่ชัด
2.การตัดสินใจแบบไม่มีโครงสร้าง (Unstructured Decision )  = เป็นการตัดสินใจระดับสูง เป็นการตัดสินใจเกี่ยวกับปัญหาที่ไม่สามารถกำหนดการตัดสินใจล่วงหน้า
3.การตัดสินใจแบบกึ่งโครงสร้าง (Semi structured Decision)  = เป็นการตัดสินใจในระดับกลาง เป็นการตัดสินใจเกี่ยวกับปัญหาที่ระบุกระบวนการ วิธีการตัดสินใจไว้ล่วงหน้าบางส่วน อีกส่วนต้องใช้ประสบการณ์และวิจารณญาณของผู้ตัดสินใจ

ความหมายของระบบสนับสนุนการตัดสินใจ
นิยามของระบบการสนับสนุนการตัดสินใจมีหลากหลายแตกต่างกันดังนี้
ลิตเทิล  ให้นิยามว่า DSS คือกลุ่มของกระบวนการที่อาศัยตัวแบบในการประมวลข้อมูลและพิจารณาเพื่อช่วยผู้บริหารในการตัดสินใจ
มัวร์ และ ชาง   ให้นิยามของ DSS ว่า เป็นระบบที่เพิ่มความสามารถในการสนับสนุนการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเฉพาะกิจ
บอนเช็ค และ คณะ  ให้นิยามของ DSS ว่า เป็นระบบคอมพิวเตอร์ที่ประกอบด้วยองค์ประกอบที่มีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกัน ได้3 องค์ประกอบ คือ ระบบทางภาษา ระบบความรู้ ระบบกระบวนการแก้ปัญหา
คีน     ให้นิยามของDSS ว่า คือผลผลิตของกระบวนการพัฒนา ซึ่งผู้ใช้ ผู้สร้างระบบ และตัวระบบเองมีความสามารถในการตอบสนอง และ มีอิทธิพลต่อกัน
         ส่วนประกอบของ DSS ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ

1.  ส่วนจัดการข้อมูล   ประกอบด้วยฐานข้อมูล  ระบบจัดการข้อมูล  ส่วนสอบถามข้อมูล  สารบัญข้อมูล ส่วนการดึงข้อมูล  และข้อมูลที่ได้รับจากแหล่งต่างๆทั้งจากภายในและภายนอกองค์การ
2.  ส่วนจัดการโมเดล   ประกอบด้วยฐานแบบจำลอง  ระบบจัดการฐานแบบจำลอง  ภาษาแบบจำลอง  สารบัญแบบจำลอง และส่วนดำเนินการแบบจำลอง
3. ส่วนจัดการโต้ตอบ   ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างผู้ใช้กับระบบเป็นไปด้วยความสะดวก และง่ายต่อการใช้งาน ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลนำเข้าและรูปแบบจำลองรวมอยู่ในการวิเคราะห์ได้
สำหรับระบบDSS ชั้นสูงจะมีส่วนจัดการองค์ความรู้เป็นอีกส่วนประกอบหนึ่ง
ส่วนจัดการองค์ความรู้   สำหรับระบบ DSS ขั้นสูงมีส่วนที่เรียกว่า ส่วนจัดการองค์ความรู้ เป็นส่วนที่ช่วยแก้ปัญหาที่ต้องอาศัยความรู้ ความเชี่ยวชาญ เพื่อให้ระบบDSS ทำงานได้ดีขึ้น
ระบบDSS มีส่วนจัดการองค์ความรู้เป็นองค์ประกอบด้วยจะเรียกว่า
-         ระบบสนับสนุนการตัดสินใจชาญฉลาด
-         ระบบสนับสนุนการตัดสินใจและผู้เชี่ยวชาญอิงฐานความรู้
-         ระบบสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญ
-         ระบบแอ็คทีฟDSS
-         ระบบสนับสนุนการตัดสินใจอิงฐานความรู้
ประเภทของระบบDSS เป็น 2 ประเภท คือ
1.ระบบสนับสนุนการตัดสินใจที่ใช้รูปแบบเป็นหลัก ( Model driven DSS)  เป็นระบบที่ใช้การจำลองสถานการณ์ และรูปแบบวิเคราะห์ต่างๆ
2.ระบบสนับสนุนการตัดสินใจที่ใช้ข้อมูลเป็นหลัก    ( Data driven DSS)     เป็นระบบที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถดึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากแหล่งต่างๆเพื่อนำมาวิเคราะห์

   ลักษณะและความสามารถของระบบสนับสนุนการตัดสินใจ

1.สนับสนุนการตัดสินใจทั้งในสถานการณ์แบบกึ่งโครงสร้างและไม่มีโครงสร้าง
2.สนับสนุนการทำงานของผู้บริหารหลายระดับ
3.สนับสนุนการตัดสินใจแบบเฉพาะบุคคลและแบบกลุ่มได้เนื่องจากปัญหามีความแตกต่างกัน
4.สนับสนุนการตัดสินปัญหาที่เกี่ยวพันซึ่งกัน หรือปัญหาแบบต่อเนื่อง
5. สนับสนุนทุกขั้นตอนของกระบวนการตัดสินใจ
6.สนับสนุนการตัดสินใจหลากหลายรูปแบบ
7.สามารถปรับข้อมูลเพื่อจัดการกับเงือนไขต่างๆที่เปลี่ยนแปลงได้
8.สามารถใช้งานได้ง่าย โดยระบบDSS จะเชื่อมต่อระบบภาษาที่ง่ายต่อการเข้าใจ มีภาพประกอบ
9.เพิ่มประสิทธิผลในการตัดสินใจ มีความถูกต้องแม่นยำ รวดเร็ว
10.ผู้ทำการตัดสินใจสามารถควบคุมทุกขั้นตอนในการตัดสินใจแก้ปัญหา
11.ผู้ใช้สามารถปรับปรุงระบบDSSขนาดเล็กได้ด้วยตนเอง
12.มีการใช้แบบจำลองเพื่อช่วยในการวิเคราะห์สถานการณ์ตัดสินใจ
13.สามารถเข้าถึงข้อมูลจากหลายแหล่งได้

       ความแตกต่างระหว่างระบบDSS และระบบสารสนเทศอื่น
ระบบDSS เป็นระบบที่จัดทำให้ฝ่ายบริหาร  ผู้เชี่ยวชาญ และนักวิเคราะห์ขององค์การ เพื่ออำนวยความสะดวกในการหาข้อมูลทั้งเกี่ยวข้องกับปัญหาแบบกึ่งโครงสร้าง และไม่มีโครงสร้าง สำหรับระบบTPSมีการจัดข้อมูลสำหรับงานประจำวัน มีกฏเกณฑ์การทำงานที่ชัดเจน สำหรับระบบMIS จะให้สารสนเทศเพื่อการควบคุม ตรวจสอบการปฏิบัติงาน สรุปผลการดำเนินงาน

       ระบบสนับสนุนการตัดสินใจส่วนบุคคล
เป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจของแต่ละบุคคลซึ่งผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนเงื่อนไขต่างๆได้ด้วยตนเอง

       ระบบสนับสนุนการตัดสินใจกลุ่ม(Group Decision Support System; GDSS)
เป็นระบบแบบโต้ตอบที่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจร่วมกันของกลุ่มบุคคล ระบบนี้ต้องอาศัยเทคโนโลยีด้านการสื่อสารเพื่อเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์
ส่วนประกอบของGDSS มีส่วนประกอบที่สำคัญ ดังนี้
1. อุปกรณ์    สิ่งอำนวยความสะดวกในการประชุม เช่น โต๊ะ เครื่องเสียง อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
2.ชุดคำสั่ง    แบบสอบถามอิเล็กทรอนิกส์  เครื่องมือระดมความคิดทางอิเล็กทรอนิกส์  เครื่องมือช่วยกำหนดนโยบาย
3.ฐานแบบจำลองของระบบ   ประกอบด้วยแบบจำลองเช่นเดียวกับ ระบบDSS ส่วนบุคคล
4.บุคลากร   สมาชิกในกลุ่ม และผู้สนับสนุนด้านต่างๆ



       ประโยชน์ของGDSS ช่วยส่งเสริมการทำงานเป็นกลุ่ม ดังนี้
1.เตรียมความพร้อมในการประชุม
2.อำนวยความสะดวกด้านการสื่อสารระหว่างสมาชิกกลุ่ม
3.ส่งเสริมและสร้างบรรยากาศในการร่วมมือกันระหว่างสมาชิก
4.จัดเตรียมข้อมูลสารสนเทศให้เหมาะสม
5.จัดลำดับความสำคัญของปัญหา
6.อำนวยความสะดวกในการจัดเอกสารประกอบการประชุม


แบบฝึกหัดบทที่ 7

1.อะไรคือความแตกต่างระหว่างความสามารถของผู้บริหารในการเรียกข้อมูลออกมาใช้ตามความต้องการของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ  และความสามารถจัดการเรื่องบริหารการตัดสินใจโดยใช้ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ
        ตอบ  เพื่อสนับสนุนการจัดการในระหว่างขั้นตอนตัดสินใจระบบสนับสนุนการตัดสินใจที่ใช้คือ
         รูปแบบจำลองในการวิเคราะห์
         ฐานข้อมูลเฉพาะ
         ผู้ที่ตัดสินใจหรือผู้ตัดสิน
         การติดต่อระหว่างกัน  ขั้นตอนการสร้างรูปแบบจำลองในระบบคอมพิวเตอร์เป็นสนับสนุนที่จัดทำขึ้นแบบกึ่งโครงสร้างและแบบไม่มีโครงสร้างจากผู้จัดการแต่ละคน
#################################################################################

2.ระบบงานการขาย มีความก้าวหนักว่าแต่ก่อนมาก  เมื่อต้องการข้อมูลสำหรับการทำงานในองค์กร  เนื่องจากความต้องการเรื่องกลยุทธ์ เทคนิค  และการบริหารการตัดสินใจในธุรกิจเปลี่ยนไป ในกศึกษาอธิบายเหตุการณ์เปลี่ยนแปลง
        ตอบ  ปัจจุบันการดำเนินธุรกิจมีการแข่งขันค่อนข้างสูง  ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้บริหารจะต้องอาศัยชั้นเชิงในการบริหารที่เหนือกว่าคู่แข่ง  หรืออาศัยความว่องไวในการปรับตัวให้ทันต่อภาวะการแข่งขันที่เกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
##################################################################################
3.มีแนวทางไหนบ้าง  ที่นักศึกษาใช้โปรแกรมตารางคำนวณอิเล็กทรอนิกส์ที่นำมาช่วยในการตัดสินใจ
       ตอบ การทำงานร่วมกันของระบบอินทราเน็ตกลายเป็นสิ่งเข้าอย่างรวดเร็ว  ที่ทำให้กล่าวได้ว่า  ระบบสารสนเทศของทุกๆคน ( Everyone s  Inforomation  System )  ซึ้งเป็นแหล่งข้อมูลสารสนเทศที่สำคัญ
################################################################################

4.ทำไมการใช้ระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหารระดับสูง จึงขยายไปยังระดับกลาง และขยายไปทั่วหมดทุกแผนกในองค์การ
       ตอบ บริหารระดับสูง กำหนดเป้าหมาย กลยุทธ์ นโยบายและการวางแผนภายในองค์กรและรวมของทิศทางด้านการเมือง  เศรษฐกิจ  และการแข่งขันทางธุรกิจ
         บริหารระดับกลาง กำหนอตารางงบประมาณและนโยบายขั้นตอนการทำงานและเป้าหมายทางธุรกิจสำหรับหน่วยย่อยภายในองค์กร  การจัดสรรแหล่งข้อมูลและตรวจดูการทำงานของหน่วยย่อยภายในองค์กร  ขั้นตอนการทำงานของทีมงาน  ทีมงานโครงการและกลุ่มทำงาน
################################################################################

5.ทำไมเครื่องคอมพิวเตอร์จึงสามารถคิดได้ อธิบายเหตุผล
       ตอบ คอมพิวเตอร์คือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์อเนกประสงค์ที่ได้สร้างขึ้นเพื่อให้มนุษย์สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือ (tools) สำหรับเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานด้านต่างๆๆ ให้ได้ตามต้องการของมนุษย์ เช่น ด้านการศึกษางานวิจัย วิทยาศาสตร์การแพทย์ ฯลฯ
##################################################################################

6.การประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในองค์กร  ส่วนไหนสำคัญที่สุด   บอกเหตุผลที่นักศึกษาเลือก
       ตอบ   ความเจริญก้าวหน้าของคอมพิวเตอร์เป็นไปในทุกด้าน ทั้งทางด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์การที่มีพัฒนาการเจริญก้าวหน้า จึงทำให้นักคอมพิวเตอร์ตั้งความหวังที่จะทำให้คอมพิวเตอร์มีความฉลาดและสามารถตัดสินใจเพื่อช่วยทำงานของมนุษย์ได้มากขึ้น โดยเฉพาะวิทยาการด้านปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) ซึ่งเชื่อกันว่าจะเป็นวิทยาการที่จะช่วยให้มนุษย์ใช้คอมพิวเตอร์แก้ปัญหาต่างๆ ที่สำคัญ เช่นการให้คอมพิวเตอร์เข้าใจภาษามนุษย์ รู้จักการใช้เหตุผล การเรียนรู้ ตลอดจนการสร้างหุ่นยนต์
#################################################################################





7.การผสมผสานระหว่างระบบผู้เชี่ยวชาญและเครือเส้นประสาท  จะก้าวหน้าต่ออย่างไรไม่หยุดยั้ง นักศึกษาคาดหวังว่าจะ
เกิดเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยอย่างไรบ้าง
      ตอบ  ระบบผู้เชี่ยวชาญและเครือข่ายเส้นประสาท  ซึ่งสามารถร่วมกันทำงานภายในระบบที่มีการเตรียมการทำงานที่ดีที่สุดของเทคโนโลยี
#################################################################################
8.อะไรคือขอบเขตจำกัด หรืออันตรายที่นักศึกษามองเห็น ในการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เช่น ระบบผู้เชี่ยวชาญ ความจริงเสมือน และตัวแทนสติปัญญา และอะไรที่จะลดขนาดของผลกระทบเหล่านี้ลงได้
      ตอบ  เป็นการจำลองเหตตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์  ความจริงเสมือนจิงเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตอย่างรวดเร็วของปัญญาประดิษฐ์ที่พยายามที่จะสร้างให้เป็นธรรมชาติ ดูเสมือนจริงมีความรู้สึกเหมือนมนุษย์ ที่อาศัยอุปกรณ์ป้อนข้อมูลและส่งข้อมูลที่มีหลากหลายทางความรู้สึก เช่น หูฟังกับเครื่องเล่นวีดีทัศน์ ถุงมือส่งข้อมูลและชุดเสื้อกางเกงกับตัวตรวจจับไฟเบอร์ออฟติคที่ติดไว้ตามร่างกายของคุณเวลาที่คุณเคลื่อนไหว
 ##################################################################################                                                                                                                                                แหล่งที่มา สุกัญญา




กรณีศึกษา

1. อะไรเป็นมูลค่าทางธุรกิจของการประมวลผลการวิเคราะห์ออนไลน์ของบริษัท Office  Depot
       ตอบ  ค่าลิขสิทธิ์สำหรับใช้ในการโฆษณาส่งเสริมการขาย บริษัท Office  Depot
-
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
2. บริษัท  Office  Depot  ได้ผลจากการลงทุนสำหรับเทคโนโลยีสารสนเทศที่นำ OLAP  ไปใช้งานอย่างไร
      ตอบ บริษัท  Office  Depot เตรียมผู้จัดหาสินค้าที่มีการทำงานร่วมกันกับการเข้าถึงข้อมูลทางการตลาดในระบบอินทราเน็ตที่ใช้ Wired ของการเชื่อมโยงใน OLAP บริษัทพร้อมที่จะแบ่งส่วนในการทำงานของการขายร่วมกับผู้จัดหาสินค้าหลักอีกสอง2แหล่งทั้งหมดที่เป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ในการเปลี่ยนแปลงชุดการติดต่อธุรกิจภายใน

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
3. บริษัท  Office  Depot  ควรที่จะมีการเตรียมให้ผู้จัดส่งสินค้าผ่านเอ็กซ์ทราเน็ตเพื่อเข้าถึงข้อมูลทางการตลาดหรือไม่  เพราะอะไร
   ตอบ  ควรเตรียมผู้จัดหาตลาดสินค้าที่มีการทำงานร่วมกับการเข้าถึงข้อมูลทางการตลาดในระบบอินทราเน็ตที่ใช้  Wirfd  ของการเชื่อมโยงใน  OLAP  เพราะ จะสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------





วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

สรุปบทที่6 แบบฝึกหัดและกรณีศึกษา


         

           บทที่ 6 ระบบสารสนเทศสำหรับการปฎิบัติงานทางธุรกิจ




      

              สรุป บทที่ 6

         ระบบสารสนเทศสำหรับการปฎิบัติงานทางธุรกิจ
          ระบบสารสนเทศทางธุรกิจ (Business Information System) เป็นระบบสารสนเทศที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อสนับสนุนให้การดำเนินงานของธุรกิจให้ดำเนินการอย่างเป็นระบบ โดยถูกออกแบบและพัฒนาให้ปฏิบัติงานตามหน้าที่ทางธุรกิจ ตลอดจนช่วยส่งเสริมให้ทั้งองค์การสามารถประสานงานและใช้ข้อมูลร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพทั้งในระดับปฏิบัติงานและระดับบริหาร โดยสามารถจำแนกระบบสารสนเทศตามหน้าที่ทางธุรกิจ ตามหน้าที่ดังต่อไปนี้
        ระบบสารสนเทศด้านการบัญชี (Accounting Information System)
เรียกว่า AIS จะเป็นระบบที่รวบรวม จัดระบบ และนำเสนอสารสนเทศทางการบัญชีที่ช่วยในการตัดสินใจแก่ผู้ใช้สารสนเทศทั้งภายในและภายนอกองค์การ โดยระบบสารสนเทศทางบัญชีจะให้ความสำคัญกับสารสนเทศที่สามารถวัดค่าได้ หรือการประมวลผลเชิงปริมาณมากว่าการแก้ปัญหาเชิงคุณภาพ ระบบสารสนเทศทางด้านการบัญชีจะประกอบด้วย 2 ส่วนคือ

1. ระบบบัญชีทางการเงิน (Financial Accounting System)
    จะเป็นการบันทึกรายการค้าที่เกิดขึ้นในรูปตัวเงิน จัดหมวดหมู่รายการต่าง ๆ สรุปผลและตีความหมายในงบการเงิน ได้แก่ งบกำไรขาดทุน งบดุล และงบกระแสเงินสด โดยมีวัตถุประสงค์หลัก คือ นำเสนอสารสนเทศแก้ผู้ใช้และผู้ที่สนในข้อมูลทางการเงินขององค์การ เช่น นักลงทุน และเจ้าหนี้
          
2. ระบบบัญชีผู้บริหาร (Managerial Accounting System)
    เป็นการนำเสนอข้อมูลทางการเงินแก่ผู้บริหาร เพื่อใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจ ระบบบัญชีจะประกอบด้วย บัญชีต้นทุน การงบประมาณ และการศึกษาระบบ

3. ระบบสารสนเทศด้านการเงิน (Financial Information System)
     ระบบสารสนเทศด้านการเงิน จะเกี่ยวกับสภาพคล่อง (Liquidity) ในการดำเนินงาน เกี่ยวข้องกับการจัดการเงินสดหมุนเวียน ถ้าธุรกิจขาดเงินทุนอาจก่อให้เกิดปัญหาขึ้นทั้งโดยตรงและอ้อม โดยที่การจัดการทางการเงินจะมีหน้าที่สำคัญ 3 ประการ ดังนี้ 
1. การพยากรณ์ (Forecast)
   คือการศึกษาวิเคราะห์ การคาดการณ์ การกำหนดทางเลือก และการวางแผนทางด้านการเงินของธุรกิจ เพื่อใช้ทรัพยากรทางการเงินให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยนักการเงินสามารถใช้หลักการทางสถิติและแบบจำลองทางคณิตศาสตร์มาประยุกต์ การพยากรณ์ทางการเงินจะอาศัยข้อมูลทั้งภายในและภายนอกองค์การ ตลอดจนประสบการณ์ของผู้บริหารในการตัดสินใจ
 2. การจัดการด้านการเงิน (Financial Management)
   คือการบริหารเงินให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น รายรับและรายจ่าย การหาแหล่งเงินทุนจากภายนอก เพื่อที่จะเพิ่มทุนขององค์การ โดยวิธีทางการเงิน เช่น การกู้ยืม การออกหุ้น หรือตราสารทางการเงิน
3. การควบคุมทางการเงิน (Financial Control)
เป็นการติดตามผล ตรวจสอบ และประเมินความเหมาะสมในการดำเนินงานว่าเป็นไปตามแผนที่กำหนดหรือไม่ ตลอดจนวางแนวทางแก้ไขหรือปรับปรุงให้การดำเนินงานทางการเงินของธุรกิจมีประสิทธิภาพ โดยที่การตรวจสอบและการควบคุมทางการเงินของธุรกิจจะจำแนกได้ 2 ประเภท คือ
3.1 การควบคุมภายใน (Internal Control)
3.2 การควบคุมภายนอก (External Control)
3. ระบบสารสนเทศด้านการตลาด (Marketing Information System)
ระบบสารสนเทศทางการตลาด จะประกอบด้วยระบบหน่อย ซึ่งแบ่งตามหน้าที่รับผิดชอบดังนี้
1. ระบบสารสนเทศสำหรับการขาย จะประกอบด้วย
1.1 ระบบสารสนเทศสำหรับสนับสนุนการขาย จะรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของฝ่ายข่าย เพื่อให้การขายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ข้อมูลที่ระบบต้องการอาจะเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่จะทำการขาย รูปแบบ ราคา และการโฆษณาต่าง ๆ
1.2 ระบบสารสนเทศสำหรับวิเคราะห์การขาย จะรวบรวมสารสนเทศในเรื่องของกำไรหรือขาดทุนของผลิตภัณฑ์ ความสามารถของพนักงานขาย ยอดขายของแต่ละเขตการขาย รวมทั้งแนวโน้มการเติมโตของสินค้า
1.3 ระบบสารสนเทศสำหรับการวิเคราะห์ลูกค้า จะช่วยในการวิเคราะห์ลูกค้าเพื่อให้ทราบถึงรูปแบบของการซื้อและประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ เพื่อธุรกิจจะสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ          
2. ระบบสารสนเทศสำหรับการวิจัยตลาด จะประกอบด้วย
2.1 ระบบสารสนเทศสำหรับการวิจัยลูกค้า การวิจัยลูกค้าจะต่างกับการวิเคราะห์ลูกค้าตรงที่ว่าการวิจัยลูกค้าจะมีขอบเขตของการใช้สารสนเทสกว้างกว่าการวิเคราะห์ลูกค้า โดยการวิจัยลูกค้าจะต้องทราบสารสนเทศที่เกี่ยวกับลูกค้าในด้านสถานะทางการเงิน การดำเนินธุรกิจ ความพอใจ รสนิยม และพฤติกรรมการบริโภค
2.2 ระบบสารสนเทศสำหรับการวิจัยตลาด การวิจัยตลาดจะให้ความสำคัญกับการหา
ขนาดของตลาดของแต่ละผลิตภัณฑ์ที่จะนำออกจำหน่วย ซึ่งอาจจะครอบคลุมทั้งในระยะสั้นและระยะยาว สารสนเทศที่จำเป็นที่ต้องการของการวิจัยตลาดคือ สภาวะและแนวโน้มทางเศรษฐกิจ ยอดขายในอดีตของอุตสาหกรรมหรือผลิตภัณฑ์ชนิดเดี่ยวกันในตลาด รวมทั้งภาวะการแข่งขันของผลิตภัณฑ์        
3. ระบบสารสนเทศสำหรับการส่งเสริมการขาย
เป็นระบบที่ให้ความสำคัญกับแผนงานทางด้านการโฆษณาและส่งเสริมการขาย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการขาย เพิ่มยอดขายสินค้าและเพิ่มส่วนแบ่งตลาดให้สูงขึ้น สารสนเทศที่ต้องการคือ ยอดขายของสินค้าทุกชนิดในบริษัท เพื่อให้รู้ว่าสินค้าตัวใดต้องทำการวางแผนการส่งเสริมการขายอย่างไร       
4. ระบบสารสนเทศสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการ
เป็นระบบที่วิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ของผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ลักษณะและความต้องการของลูกค้าที่มีต่อผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ต้องการของลูกค้าแต่ยังไม่มีตลาด สารสนเทศที่ต้องการคือ ยอดขายของผลิตภัณฑ์ประเภทเดี่ยวกันในอดีต
5. ระบบสารสนเทศสำหรับการพยากรณ์การขาย
เป็นระบบที่ใช้ในการวางแผนการขาย แผนการทำไรจากสินค้าหรือบริการในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งของบริษัท ซึ่งจะส่งผลไปถึงการวางแผนการผลิต การวางกำลังคน และงบประมารที่จะใช้เกี่ยวกับการขาย โดยสารสนเทศที่ต้องการคือ ยอดขายในอดีต สถานะของคู่แข่งขัน สภาวะการณ์ของตลาด และแผนการโฆษณา         
6. ระบบสารสนเทศสำหรับการวางแผนกำไร
เป็นระบบที่ให้ความสำคัญกับการวางแผนกำไรทั้งในระยะสั้นและระยะยาวของธุรกิจ โดยสารสนเทศต้องการคือ สารสนเทศจากการวิจัยตลาด ยอดขายในอดีต สารสนเทศของคู่แข่งขัน การพยากรณ์การขาย และการโฆษณา
7. ระบบสารสนเทศสำหรับการกำหนดราคา
การกำหนดราคาทางการตลาด จะต้องคำนึงถึง ความต้องการของลูกค้า คู่แข่งขัน กำลังซื้อของลูกค้า โดยปกติแล้วราคาสินค้าจะตั้งราคาจากต้นทุนรวมกับร้อยละของกำไรที่ต้องการ สารสนเทศที่ต้องการคือ ตัวเลขกำไรของผลิตภัณฑ์ในอดีต เพื่อทำการปรับปรุงให้ได้สัดส่วนของกำไรที่ต้องการ
8. ระบบสารสนเทศสำหรับการควบคุมค่าใช้จ่าย
การควบคุมค่าใช้จ่าย สามารถควบคุมได้โดยดูจากรายงานของผลการทำกำไรกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงหรือสาเหตุของการคลาดเคลื่อนของค่าใช้จ่าย ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการขายรวมถึงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น เงินเดือน ค่าโฆษณา ค่าส่วนแบ่งการขาย

4. ระบบสารสนเทศด้านการผลิตและการดำเนินงาน (Production and Operations Information System)
ระบบสารสนเทศด้านการผลิตและการดำเนินงาน จะมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ ผู้ผลิตสามารถพยากรณ์ปริมาณของผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า โดยไม่ให้มีจำนวนมากหรือน้อยจนเกินไปตลอดจนควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์เป็นที่ต้องการของลูกค้า โดยมีต้นทุนการผลิตที่เหมาะสม

 5. ระบบสารสนเทศด้านทรัพยากรบุคคล (Human Resource Information System)
หรือที่เรียกว่า HRIS หรือระบบสารสนเทศสำหรับบริหารงานบุคคล (Personnel
Information System) หรือ PIS เป็นระบบสารสนเทศที่ถูกพัฒนาให้สนับสนุนการดำเนินงานด้านทรัพยากรบุคคล ตั้งแต่การวางแผนการจ้างงาน การพัฒนาและการฝึกอบรม ค่าจ้างเงินเดือน การดำเนินงานการทางวินัย ช่วยให้การบริหารทรัพยากรบุคคลเกดประสิทธิภาพ โดยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรบุคคลจะมีดังนี้
1. ข้อมูลตัวบุคลากร เป็นข้อมูลของสมาชิกแต่ละคนขององค์การ ซึ่งประกอบ ด้วยประวัติ เงินเดือน และสวัสดิการ
 2. ผังองค์การ แสดงโครงสร้างองค์การ การจัดหน่วยงาน และแผนกำลังคน ซึ่งแสดงทั้งปริมาณและการจัดสรรทรัพยากรบุคคล
 3. ข้อมูลจากภายนอก ระบบบริหารทรัพยากรบุคคลมิใช่ระบบปิด ที่ควบคุมและดูแลสมาชิกภายในองค์การเท่านั้น แต่จะเกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ซึ่งต้องการข้อมูลจากภายนอกองค์การ เช่น การสำรวจเงินเดือน อัตราการว่างงาน ฯลฯ

แหล่งที่มาhttps://mikekomson.wordpress.com/




      แบบฝึกหัดท้ายบทที่ 6

1. ทำไมแนวโน้มของระบบสารสนเทศ จึงมีการนำไปสนับสนุนงานธุรกิจหลายด้าน
   ตอบ เพื่อแก้ปัญหาและสร้างโอกาสในธุรกิจและผู้ใช้ต้องมีความเข้าใจพื้นฐานระบบสารสนเทศ สามารถสนองความต้องการการใช้งานด้านธุรกิจได้

2. ทำไมระบบการตลาดปัจจุบัน จึงเปลี่ยนมาเป็นการใช้งานบนอินเทอร์เน็ต จงอธิบาย
   ตอบ การตลาดทำหน้าที่สำคัญในการจัดการธุรกิจการค้า องค์ธุรกิจจะต้องใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมากขึ้น เพื่อช่วยในการทำงานด้านการตลาดที่สำคัญในอันที่จะต้องเผชิญหน้ากับสิ่งแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

3. จงยกตัวอย่างของบริษัทที่นำระบบสารสนเทศเข้าไปช่วยทางธุรกิจ
   ตอบ บริษัท Gulf States Paper Corporation

4. ระบบการขายในสำนักงานอัตโนมัติ มีผลกระทบต่อพนักงานขาย พนักงานฝ่ายบริหารการตลาด และฝ่ายจัดทำเรื่องการแข่งขันอย่างไร
   ตอบ การเพิ่มจำนวนขึ้นของคอมพิวเตอร์และเครือข่ายทำให้เกิดปัจจัยพื้นฐานสำหรับแรงขับเคลื่อนการขายอัตโนมัติ ในหลายๆบริษัท ใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก เว็บบราวเซอร์และซอฟแวร์ด้านการจัดการติดต่อการขายเป็นเครื่องมือที่จะเชื่อมต่อกับเว็บไซท์การตลาดบนอินเทอร์เน็ต เอ็กซ์ทราเน็ตและอินทราเน็ตของบริษัท

5. ระบบอินเทอร์เน็ต อินทราเน็ต และเอ็กซ์ทราเน็ต สามารถนำมาช่วยในการทำงานร่วมกันในกระบวนการผลิตได้อย่างไร
    ตอบ กระบวนการผลิตเหมือนกับคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยงานวิศวกรรมและการออกแบบ การควบคุมการผลิต ตารางการผลิต และการบริหารด้านการจัดหาที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการความร่วมมือ การเพิ่มในเรื่องการใช้อินเทอร์เน็ต อินทราเน็ต และเอ็กซ์ทราเน็ตและเครือข่ายอื่นๆเพื่อเชื่อโยงกับสถานีงาน

6. ระบบอินเทอร์เน็ตและอินทราเน็ต ช่วยสนับสนุนด้านการการจัดการเรื่องทรัพยากรมนุษย์ได้อย่างไร ยกตัวอย่างมาอย่างละ 3 ตัวอย่าง
   ตอบ  อินเทอร์เน็ต เช่น ระบบออนไลน์ของ HRM ได้เกี่ยวข้องกับการจัดหาลูกจ้างผ่านเว็บไซท์ของแผนกจัดหาลูกจ้างของบริษัท ใช้บริการและฐานข้อมูลของบริษัทจัดหางานบนเว็บ การประกาศผ่านกลุ่มข่าวบนอินเทอร์เน็ตและสื่อสารกับผู้สมัครงานผ่านไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ - อินทราเน็ต เช่น การให้บริการตัวเองของลูกจ้างจะช่วยให้พนักงานได้เห็นรายงานด้านผลประโยชน์และค่าใช้จ่าย ข้อมูลด้านการจ้างงานและเงินเดือน สามารถเข้าถึงและปรับปรุงสารสนเทศส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบัน

7. เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ด้านการบัญชี และการเงินอย่างไร อธิบาย
    ตอบ ระบบคอมพิวเตอร์ด้านการบัญชีจะทำการบันทึกและรายงานการไหลเวียนของเงินทุนภายในองค์กรในเรื่องที่สำคัญในอดีตและผลิตรายการด้านการเงิน ส่วนระบบสารสนเทศด้านการเงินสนับสนุนผู้จัดการฝ่ายการเงินในการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับการเงินของบริษัท เป็นต้น

8. ถ้านักศึกษาเป็นเจ้าของธุรกิจ เป็นผู้บริหารหรือเป็นผู้ประกอบการทางธุรกิจเอง นักศึกษาคิดที่จะนำเอาระบบสาระสนเทศมาใช้หรือไม่ เพราะเหตุใด จงให้เหตุผล
    ตอบ ใช้ เพราะระบบสารสนเทศสามารถที่จะช่วยให้ธุรกิจของเราไปอย่างได้ง่ายขึ้น สะดวกในการบริหารงานมากขึ้น ยิ่งในเรื่องของระบบสารสนเทศด้านบัญชีที่ช่วยในเรื่องของระบบบัญชีออนไลน์ที่ช่วยในเรื่องของกระบวนการสั่งซื้อ การควบคุมสินค้าคงคลัง เป็นต้น
                                                                           แหล่งที่มา Sukanya



         กรณีศึกษา

        ระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหาร (EIS) ของบริษัทเงินทุน Fidelity

1. ข้อดีและข้อเสียของระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหาร (EIS) มีอะไรบ้าง
ตอบ  ข้อดีของ EIS คือ
                         1. ผู้บริหารสามารถรับข้อมูลปฏิบัติการผ่านระบบคอมพิวเตอร์จากระบบฐานข้อมูลได้ 
                         2. ช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันในตลาดการเงิน
                         3. การใช้งานไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์
                         4. มีการกรองข้อมูลทำให้ประหยัดเวลา
ข้อเสียของ EIS คือ
                         1. มีข้อจำกัดในการใช้งาน
                         2. ยากต่อการประเมินผลประโยชน์ที่ได้จากระบบ
                         3. ไม่สามารถทำการคำนวณที่ซับซ้อนได้
                         4. ก่อให้เกิดปัญหาการรักษาความลับของข้อมูล


2. เหตุใดการออกแบบระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหาร (EIS) จึงเป็นการยากมากสำหรับบริษัทเงินทุน Fidelity
    ตอบ เพราะในการออกแบบระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหารนั้น ทำให้บริษัทเงินทุน Fidelity ต้องบริหารกิจการเงินทุนที่มีมูลค่ามาก และต้องซื้ออุปกรณ์ที่ทันสมัยในราคาสูงเพื่อคุณภาพที่ดี


3. ท่านคิดว่าระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหาร (EIS) ของบริษัทเงินทุน Fidelity จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้อย่างไร
   ตอบ สามารถช่วยให้การบริการนั้นเป็นไปในทางที่ง่ายมีข้อมูลที่สมบูรณ์ทัน เหตุการณ์ และสามารถปรับตัวการเปลี่ยนแปลงตลอดหุ้นให้รวดเร็วยิ่งขึ้นอันเป็นประโยชน์ ในภาคการบริหารด้านการเงิน


สรุปงานวิจัย

                   สรุปงานวิจัย ☕☕☕☕☕☕☕☕☕☕☕☕☕☕☕☕☕☕☕ 1.การพัฒนาการกระบวนการคั่วกาแฟ สรุปผลการวิจัย       1.การการคั่...